lionel messi

​เอล ขว้างอิส สื่อของประเทศสเปน ตีข่าวสาร ลิโอเนล เมสซี่ หัวหอก บาร์โลน่า มีเงื่อนไขที่จะยกเลิกคำสัญญากับสังกัดเดิมได้ทุกวันที่ 30 เดือนมิถุนายน โดยในสมัยก่อนก็เคยมีหน้าแข้ง "อาซูลกราน่า" คนไม่ใช่น้อยที่ได้รับสิทธิ์แบบงี้เช่นกัน กำถั่วออนไลน์
ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าคนที่ใครๆก็รู้จักของ บาร์เซโลน่า สมาพันธ์ยักษ์ใหญ่ที่แวดวง ลา ลีกา ประเทศสเปน มีสิทธิ์ที่จะยกเลิกข้อตกลงของเขาได้วันที่ 30 เดือนมิถุนายนของแต่ละปี ตามรายงานของ เอล ขว้างอิส สื่อชื่อก้องของดินแดนวัวกระทิงดุ


เมสซี่ นับว่าเป็นผลิตผลจากอะคาเดมี่ของ บาร์เซโลน่า ที่บรรลุความสำเร็จอย่างยิ่ง ภายหลังที่เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมจนกระทั่งแปลงเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดของโลกในยุคนี้ พร้อมด้วยช่วยทำให้กลุ่มได้แชมป์มาครอบครองได้มาก


สำหรับข้อตกลงฉบับปัจจุบันของ เมสซี่ กับ บาร์เซโลน่า เซ็นกันเมื่อพฤศจิกายน ปี 2017 โดยมันส่งผลจนกระทั่งตอนซัมเมอร์ ปี 2021 ซึ่งตลอดระยะเวลาก่อนหน้าที่ผ่านมา โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธาน "อาซูลกราน่า" ก็เอ่ยถึงหัวข้อการต่อสัญญากับดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์อยู่บ้าง ด้วยความมุ่งมาดว่าลำแข้งวัย 32 ปีจะอยู่กับกลุ่มไปจนกระทั่งห้อยสตั๊ด

อย่างไรก็ดี เอล ขว้างอิส เปิดเผยว่าที่จริงแล้วในคำสัญญาฉบับตอนนี้มันมีเงื่อนไขเหตุว่าถ้า เมสซี่ แก่ 32 ปีแล้วนั้น เขาก็สามารถยกเลิกคำสัญญาของตนได้ในวันที่ 30 เดือนมิถุนายนของทุกๆปี นั่นถือได้ว่าข้อแม้ดังที่กล่าวมาข้างต้นส่งผลเมื่อวันที่ 24 เดือนมิถุนายน ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่เขาแก่ 32 ปี

ต้นเหตุที่มีเงื่อนไขนี้เกิดขึ้นนั้น เป็นเพราะว่า เมสซี่ ไม่ได้อยากทำให้ชมรมมีภาระหน้าที่เรื่องการเงิน และไม่ต้องการถูกผูกมัดกับการต่อสัญญา ไม่ว่าจะมีช่วงเวลากี่ปีก็ตาม ซึ่ง บาร์เซโลน่า ก็ยอมทำตามอย่างความอยากของ เมสซี่ โดยเว้นแต่เขาแล้วนั้น อดีตกาลนักฟุตบอลของ บาร์เซโลน่า ผู้คนจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น การ์เลส ปูโยล, อันเดรส อิเนียสต้า รวมทั้ง ชาบี เอร์นานเดซ ก็เคยได้รับสิทธิ์จากกลุ่มให้สามารถยกเลิกคำสัญญาได้ในวันแล้ววันเล่าที่ 30 เดือนมิถุนายนด้วยเหมือนกัน

ดังนี้ เมสซี่ เคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาต้องการทดลองไปเล่นให้ นีเวลล์ส โอลด์ บอยส์ กลุ่มในประเทศประเทศอาร์เจนตินาบ้าง ภายหลังจากโน่นเป็นกลุ่มแรกที่เขาเข้าไปฝึกหัดฝีเท้าในช่วงเวลาที่ยังเป็นเยาวชน ก่อนจะบินผ่านทวีปมาเข้า ลา มาเซีย อะคาเดมี่ของ บาร์เซโลน่า ในปี 2001